
อย่ าดูถูกหม า เพราะมันซื่อสัตย์กว่าใครบางคน (ข้อคิดดีมากคนอ่านได้กำไร)
มีนักวิจัยพูดถึงเรื่องเรื่องหม า ไว้ว่า…. ธรรมชาติของน้องหมาอยู่ร่วมกันเป็นฝูง
ทั้งน้องหมาและมนุษย์พึ่งพาอาศัยอยู่ร่วมกันมาช้านาน น้องหมามีความพยายามที่จะสื่อสารกับมนุษย์
น้องหมาใส่ใจกับผลประโยชน์ที่เท่าเทียม เมื่อเกิดความไว้ใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีจะตามม า
ที่นี้เรามาฟังเรื่องเล่าสะท้อนใจ หมาๆ คนๆ กัน…
ใ นซอยบ้านจะมีหม าตัวนึงมันคงไม่ค่อยชอบ ขี้หน้าผมเท่าไหร่
ทุกครั้งที่ผมเดินผ่านหน้าบ้านมัน มันจะเห่ า กระโจนใส่ประตูเหล็กอย่ างบ้ าค ลั่ ง
ปานกับว่าผมเคยไปฆ่ าแม่มัน ต า ย เวลาผมไปซื้อของหน้าปากซอย
ผมเคยเล่าให้พ่อฟังว่าไม่กล้าไปกลั วหม าพ่อบอกผมว่าไม่ต้องกลั วหรอก
หม าที่ดุที่สุดให้ลูกชิ้นมันทุกวันๆซักวันมันก็จะเชื่องเอง นับแต่วันนั้นผมเจียดเงิน 5 บาทซื้อลูกชิ้น 1 ไม้
ผมกินสองลูกแบ่งหม า 2 ลูกทุกวัน วันแรกๆมันแทบจะกระโ ด ด กั ด มือผมให้ได้
ถ้าไม่มีประตูเหล็กผมคงมือขๅดไปแล้ว วันเวลาผ่านไปไม่นาน มันไม่เห่าผมอีกเลย
กระดิกหางรอผมทุกเย็น วันหนึ่งเจ้าของบ้านปิดประตูไม่สนิท มันวิ่งกระดิกหางมาหาผม
หยอกเล่นกับผม สนุกสนาน ตั้งแต่วันนั้นเราเป็นเพื่อนกัน วิ่งเล่นกันมาโดยตลอด
โตมาผมจึงนึกถึงคำพ่อสอน…. หม าที่ว่าดุ ๆ เราหยิบยื่นไมตรีให้มอบความเป็นมิตรให้
“ดุแค่ไหนก็กลายเป็นเชื่อ ง” แต่กับคนต่อให้เราดีแค่ไหนจริงใจแค่ไหน เลี้ยงอาหารดีแค่ไหน
ก็ยังหั กหลังเราได้ ลูกชิ้นไม่กี่ไม้ซื้อใจหมาได้ตลอดชีวิต กับคนต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหน ก็เชื่อใจไม่ได้จริง ๆ
“หม าที่ว่าดุ…. ยังไม่น่ากลั ว เท่าใจคน” อย่ าดูถูกหม า เพราะมันซื่อสัตย์กว่าใครบางคน
บางคนก็ดีด้วยจริงๆ บางคน… ก็ดีแค่ต่อหน้า
บางคนก็เอาเราไปนิ น ท า บางคน… ก็คอยอิจฉาเรา
หน้าที่ของเราก็แค่รักษาคนดีๆไว้ ส่วนคนอื่นก็แค่ผ่านเข้ามาในชีวิต แค่เราอย่ า เ สีย ความเป็นตัวเราก็พอ
ไม่จำเป็นต้องฉลาดกับเรื่องที่ควรแกล้งโง่ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โลกไม่ได้สอนให้เราใจร้ า ย
แต่โลกสอนเราให้รู้จักร ะ วั ง ตั ว
ที่มาขอบคุณ คิดกลับด้าน , chayend